นกพิราบขาวพันธุ์สื่อสาร
นกพิราบพันธ์สื่อสารที่มีสีขาวล้วน ดูสวยงามและโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้า ในวันที่ท้องฟ้าสดใส แสงแดดจะกระทบกับปีกที่กำลังกระพือเห็นเป็นสีขาวระยิบระยับตัดกับสีท้องฟ้า หากบินเกาะกลุ่มกันเป็นฝูงก็ยิ่งทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก นกพิราบสีขาวเกิดจากการผ่าเหล่าและเป็นลักษณะด้อย หมายความว่า หากทำการจับคู่นกพิราบสีขาวกับนกพิราบสีอื่นๆ จะไม่ได้ลูกนกพิราบสีขาวอีกเลย ฉะนั้น หากต้องการเพาะลูกนกให้มีสีขาว ต้องใช้พ่อนกและแม่นกที่มีสีขาวเท่านั้น แต่ในเชิงปฏิบัติมักจะไม่ได้ลูกนกสีขาวล้วน มักจะมีสีอื่นๆปนเปื้อนเป็นจุด เป็นแต้ม เป็นปื้นหรือเป็นแถบเสมอ ดังนั้นการจะสร้างสายพันธุ์นกพิราบสีขาวล้วนจึงเป็นงานที่ต้องใช้เวลาหลายปี ( 5-10 ปี ) กว่าจะได้เป็นสายพันธุ์แท้ที่ให้ลูกเป็นนกพิราบสีขาวล้วน ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในแถบยุโรป มีผู้เพาะเลี้ยงและปรับปรุงสายพันธุ์นกพิราบสีขาวล้วนหลายราย แต่ละรายจะมีนกพิราบขาวในสต๊อกตั้งแต่ 300-400 ตัวขึ้นไป โดยมีจุดประสงค์ในการเพาะเลี้ยง 2 ประการ คือ เพี่อการแข่งขันบินทางไกล และ เพี่อเป็นนกปล่อยในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส พิธีเปิดการแข่งขันกีฬา เป็นต้น นกพิราบขาวพันธุ์สื่อสารที่เคยมีชื่อเสียงว่าสวยที่สุดในโลก คือสายพันธุ์ที่เรียกว่า pletinckx ซึ่งพัฒนาโดยผู้เพาะเลี้ยงในประเทศเบลเยี่ยม มีลักษณะสีขาวล้วน รูปทรงสวยงาม และบินเร็ว และมามีชื่อเสียงสูงสุดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี ค.ศ. 1960-1970 เมื่อ วอลท์ ดิสนีย์ นำมาแสดงในภาพยนตร์ เรื่อง " Pigeon Fly Home " ปัจจุบันยังมีนกพิราบสายพันธุ์นี้ได้รับการเลี้ยงดูและปล่อยบินอวดความสวยงามอยู่ในสวนพักผ่อนหย่อนใจของอาณาจักรดิสนีย์แลนด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย
นกพิราบขาวสยาม
เป็นนกพิราบพันธุ์สื่อสารสีขาวล้วนที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่โดยคนไทย จากจุดอ่อนของนกพิราบขาวที่มีดวงตาเป็นสีดำทึบ ได้รับการปรับปรุงลักษณะสีของดวงตาให้มีสีสดใสและหลากหลาย เช่น สีแดง สีชมพู สีเงิน สีส้ม และสีเหลือง ทำให้นกพิราบขาวสยามสวยเด่นกว่านกพิราบขาวทั่วๆไป และขณะนี้เป็นที่ยอมรับของผู้เพาะเลี้ยงนกพิราบจากทั่วทุกมุมโลกแล้วว่า นกพิราบขาวสยามเป็นนกพิราบขาวพันธุ์สื่อสารที่สวยที่สุดในโลก
ประกายความคิด
จากการสังเกตุคนผิวขาวชาวเอเชียที่มีดวงตาสีดำน้ำตาลเหมือนกันหมด เปรียบเทียบกับคนผิวขาวที่มีเชื้อสายคอเคเชี่ยนซึ่งมีสีของดวงตาเป็นสีสดใสและหลากหลาย ทำให้เกิดแนวคิดที่จะพัฒนานกพิราบสีขาวให้มีสีของดวงตาหลากหลายขึ้นมาบ้าง
จุดเริ่มต้น
ประมาณ 20 ปีย้อนหลัง ได้ทำการเสาะหานกพิราบสีขาวพันธุ์สื่อสารทุกรูปแบบเท่าที่จะหาได้เพื่อนำมาปรับปรุงสายพันธุ์ ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มได้เป็น 4 ชนิด คือ
1. นกพิราบสีขาวล้วน ดวงตามีสีดำทึบ (Albino)
2. นกพิราบสีขาวที่มีสีอื่นๆปนเป็นปื้นหรือเป็นแถบ (Splash) ดวงตาอาจจะมีสีหลากหลายหรือสีดำทึบ
3. นกพิราบสีขาวที่มีแต้มสีดำกระจายทั่วตัว (Grizzle) ดวงตามักจะเป็นสีหลากหลาย
4. นกพิราบขาวที่เกิดจากนกสีโกโก้ที่มีความผิดปกติในการสร้างสี ( Dilution ) สีโกโก้จะจางลงมากจนสีพื้นเกือบเป็นสีขาวและมีลายสีโกโก้เข้มหรืออ่อนแซมอยู่ แต่ลักษณะที่เด่นที่สุดคือ ดวงตาจะมีสีสดใส
จากการทดลองผสมนกพิราบสีขาวทั้ง 4 ชนิดสลับไปมา พบว่าลูกนกที่ได้จากการผสมของสายพันธุ์ที่
1 และสายพันธุ์ที่ 4 มีแนวโน้มที่จะได้เป็นนกพิราบสีขาวที่มีดวงตาหลากสี จึงได้ทำการผสมลงลึกและคัดสายพันธุ์ไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดได้นกพิราบสีขาวล้วนที่มีดวงเป็นสีหลากสี เป้าหมายต่อไปคือการพัฒนารูปร่างให้ได้สัดส่วนและสวยงาม
ขั้นตอนสุดท้ายคือการพัฒนาศักยภาพในการบินเร็ว เพื่อใช้แข่งขันในกีฬานกแข่ง
คุณสมบัติ
พิราบขาวสยาม เป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่ง ที่สามารถเลี้ยงให้เชื่องกรงได้
เวลาปล่อยออกจากกรง จะบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความปราดเปรียว ขณะบินเดี่ยว ชอบบินฉวัดเฉวียน
บินดิ่ง และบินทะยาน ถ้ามีหลายตัว ชอบบินเกาะกลุ่มไปพร้อมๆกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ท้องฟ้ามีอากาศแจ่มใส
พิราบขาวสยามจะบินเล่นไต่ระดับขึ้นไปสูงถึงตึก 20-30 ชั้น แสงแดดจะสะท้อนกับปีกที่ขยับบิน
เห็นเป็นแสงระยิบระยับ เป็นธรรมชาติที่ดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เมื่อบินเล่นจนพอใจแล้ว
จะบินกลับและเข้ากรงได้เอง เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงนกพิราบแข่งที่จะเลี้ยงนกพิราบขาวสยามไว้ดูเพลิดเพลินและคลายเครียดจากการแข่งขัน
สำหรับผู้รักสัตว์เลี้ยงทั่วๆไป นกพิราบขาวสยามก็เป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งที่น่าสนใจและมีอนาคต
จากคุณสมบัติที่สวยงามและหายาก หากได้มีการเผยแพร่ไปทั่วโลกแล้ว น่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่ง
ที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจสำหรับประเทศไทย
คุณประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ
เนื่องจากเป็นนกพิราบพันธุ์สื่อสารที่มีความสวยงาม ดังนั้น ตลาดโดยตรงของนกพิราบสายพันธุ์นี้ คือ ผู้เพาะเลี้ยงนกพิราบพันธุ์สื่อสารและพันธุ์สวยงาม ซึ่งมีจำนวนนับล้านคนทั่วโลก ที่ต้องการสะสมนกที่สวยงามและหายากเอาไว้ในสต๊อกของตนเอง นอกจากนี้หากทำการโปรโมทเข้าไปในตลาดผู้รักสัตว์เลี้ยงทั่วๆไปด้วยแล้ว ก็จะสามารถขายนำเงินตราเข้าประเทศได้เป็นจำนวนมหาศาล เนื่องจากพิราบขาวสยามเป็นนกพิราบสายพันธุ์ใหม่ จึงสามารถกำหนดราคาได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการแข่งขันตัดราคา และคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีหลังการเปิดตัวของนกพิราบขาวสยามในตลาดโลก คู่แข่งขันจึงจะสามารถพัฒนาขึ้นมาทัดเทียม ซึ่งก็จะส่งผลดีกลับมาอีกครั้ง เพราะตลาดจะกว้างออกไป ขณะที่ผู้ริเริ่มยังคงความได้เปรียบในด้านความหลากหลายของสายพันธุกรรมที่มีอยู่ในสต๊อก
แนวทางการพัฒนาสายพันธุ์ในอนาคต
ลักษณะภายนอกสีขาวล้วน ช่วงปีกและลำตัวยาวสมส่วน ยืนสง่า ดวงตามีสีสดใสและหลากหลาย
ความท้าทายข้างหน้าคือการทำสีตาให้เป็นสีเขียวและสีฟ้า